เมื่อพูดถึงสวยงามที่น่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ, มีแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งในโลกที่เกินไปและน่าทึ่งมาก นั่นคือ Iceland แผ่นดินที่ถูกตามหาจากผู้ที่ค้นพบความสวยงามที่แท้จริงของโลกนี้ “The Miracle Nature of Iceland” ตระหนักถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวที่รับรู้ธรรมชาติและวัฒนธรรมของ Iceland

ธารน้ำแข็งพันปี น้ำพุร้อนที่แสนมหัศจรรย์ น้ำตกสวย และวิวทิวทัศน์ของทุ่งกว้างภูเขาสูงที่แสนจะงดงามเงียบสงบท่ามกลางภูมิอากาศที่เยือกเย็น เป็นจุดหมายปลายทางของการเดิน ทางสู่ไอซ์แลนด์ในยุโรปเหนือ
ไอซ์แลนด์…ดินแดนที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง เป็นประเทศกลุ่มนอร์ดิกในยุโรปเหนือ ( หมายถึงภูมิภาคในยุโรปเหนือ ประกอบด้วย เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน) ตั้งอยู่บนเกาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ระหว่างกรีนแลนด์ นอร์เวย์ และสหราชอาณาจักร เมืองหลวงชื่อ เรคยาวิก มีประชากรราวสามแสนคน มีพื้นที่รวม 102,775 ตารางกิโลเมตร นับว่าเป็นประเทศที่มีประชากรเบาบาง เวลานั้นช้ากว่าประเทศไทย 7 ชั่วโมง ในปี 2557 ได้รับการจัดลำดับให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสงบสุขที่สุดในโลก ใช้ภาษาไอซ์แลนด์ และภาษาอังกฤษ จึงง่ายต่อการสื่อสารกับผู้ที่เดินทางมาเยือน
Plan your trip

ไอซแลนด์ ประเทศที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ อยู่ในกลุ่มประเทศนอร์ดิก มีประชากรเบาบางท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของเวิ้งน้ำ ทุ่งกว้าง และภูเขาสูงที่งดงามสบายตา
กรุงเรคยาวิก เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด ชาวนอร์ดิคเป็นผู้อพยพคนแรกที่มาตั้งรกรากที่เรคยาวิกในปี พ.ศ. 1413 เมื่อเรคยาวิกกลายเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าและธุรกิจการประมง จึงได้มีการก่อตั้งให้เป็นเมืองหลวงในปี พ.ศ. 2329

มองจากที่สูงในขณะที่เครื่องบินลดระดับเพดานบินลงสู่ภาคพื้น จะเห็นพื้นผิวที่ขรุขระสูงๆ ต่ำๆ โดยทั่วไป พอล้อเครื่องบินแตะพื้นแล้วแท็กซี่เข้าลานจอด กลับพบกับความสวยงามที่รายล้อมด้วยธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ แม้ว่าดินแดนแห่งนี้มีภูเขาไฟมากกว่าจำนวนร้อย ซึ่งหลายแห่งยังคงคุกรุ่นอยู่ เช่น ภูเขาไฟเฮกลา บาร์ดาบุงกา เป็นต้น พลังงานความร้อนที่สะสมอยู่ใต้พื้นดินนั้นสูงมาก เป็นแหล่งทำให้เกิดน้ำพุร้อนจำนวนมาก

ธารน้ำแข็ง ทุ่งลาวาสีดำ และชายหาดสีดำ ในไอซ์แลนด์
สภาพภูมิประเทศที่มีธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ ทุ่งลาวาสีดำ และชายหาดสีดำ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปล่าแสงเหนือ ซึ่งจะพบบ่อยครั้งในช่วงเวลาจากเดือนกันยายนข้ามปีไปถึงเมษายนของอีกปีหนึ่ง สภาพอากาศไม่หนาวเหน็บจนเกินไปที่จะวางแผนมาเที่ยวไอซ์แลนด์ก็จะเป็นช่วงเดือนกันยายนนี่แหละ แต่อย่าชะล่าใจเตรียมเครื่องแต่งกายป้องกันความหนาวเย็น เพื่ออบอุ่นร่างกายเป็นสิ่งสำคัญเสมอในไอซ์แลนด์

เดือนกันยายน เป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนฤดู ได้เห็นภูเขาหินมากมายที่ปกคลุมด้วยสีเขียวขจีของหญ้าและมอส พบเห็นฟยอร์ตามเส้นทาง และกลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งที่มีอายุเป็นหมื่นๆ ปี อย่างใกล้ชิดสวยงามมาก หากลงเดินชมวิวริมทะเลก็ต้องระมัดระวัง เพราะคลื่นลมแรงมาก และธรรมชาติอาจจะเซอร์ไพรส์ที่จู่ๆ แสงเหนือที่มีสีสันทั้งส้ม ชมพู เขียว สลับกันสวยงาม น่าประทับใจก็ปรากฏให้เห็นบนฟากฟ้า

หากวางแผนเที่ยวกันเอง รถเช่าจากสนามบินเหมาะที่สุดในการเดินทาง บนถนนหมายเลข 1 ที่เรียกว่า วงแหวนทองคำ (Golden Circle) มุ่งสู่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ประกอบไปด้วยอุทยานแห่งชาติ น้ำตก และน้ำพุร้อน ซึ่งเป็นศูนย์รวมแหล่งธรรมชาติที่งดงามมหัศจรรย์ ทั้งยังเป็นแหล่งวัฒนธรรมชาวไวกิ้งดั้งเดิม…สำหรับผู้หลงใหลวิถีไวกิ้ง “ธิงแควลลิร์” อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอซ์แลนด์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ในปี 2004 เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่ได้ใช้จัดการประชุมของชาวไวกิ้งก่อนจะมาเป็นสภาของชาวไอซ์แลนด์ ทั้งมีน้ำพุร้อนกีเซอร์ที่มีแอ่งน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ขับเคลื่อนด้วยแรงดันความร้อนมหาศาลจากใต้พิภพ เมื่อความดันอัดแน่นเต็มที่แล้วพลังน้ำก็จะปะทุขึ้นมาราวกับการปรากฏร่างของอสุรกายพร้อมเสียงกระหึ่มราวกับสายฟ้าฟาด และกระแสน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศราว 70 เมตรเลยทีเดียว ทั้งยังมีน้ำตกไนล์แองการาไอซ์แลนด์ ที่ชื่อว่า Gullfoss หมายถึงน้ำตกทองคำ ซึ่งอยู่ในเส้นทางหลักและอยู่ไม่ไกลกันนัก

เมือง Jokusarlon ยังอยู่ตามเส้นทางถนนหมายเลข 1 ด้านตะวันออกของเกาะไอซ์แลนด์ ชมความงามทะเลสาบน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในไอซแลนด์ ธารน้ำแข็งพันปีแห่งนี้ ที่ทุกคนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ และลึกเป็นอันดับที่สองโดยอยู่ทางทิศใต้ตรงปลายทางของธารน้ำแข็งพันปี อยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติสเกฟตาลเฟลล์ (Skeftalfell National Park) และเมืองฮอฟน์ (Hofn) โดยปรากฏขึ้นครั้งแรกในช่วงปี ค.ศ.1935 น้ำแข็งขนาดใหญ่โตก้อนสุดท้ายค่อยๆ ละลายลงมาจากภูเขาน้ำแข็งด้านบน และไหลลงสู่ทะเล ทำให้พื้นที่ขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในปัจจุบันกินพื้นที่กว้างทั้งหมดถึง 18 ตารางกิโลเมตร และมีความลึกของน้ำถึง 200 เมตร นอกจากจะได้ชมกับความสวยงามของทุ่งน้ำแข็งแห่งนี้ มีนก Skuas เป็นนกทะเลสีดำ และนกสีขาวตระกูลนกนางนวล ที่เรียกว่า big sea gulls หากโชคดีคุณอาจจะได้เห็นสิงโตทะเลตัวอ้วนกลมมาดำผุดดำว่ายเล่นน้ำโชว์ความน่าเอ็นดูภายใต้ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง

แวะเยี่ยมฮัลล์กรีมสคิร์คยา ซึ่งเป็นโบสถ์วิหารที่เก่าแก่และสูงใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ในกรุงเรคยาวิก และฮาร์ปา เรย์คยาวิก สถาปัตยกรรมเรือนกระจกสมัยใหม่ ศูนย์การประชุมและการแสดงดนตรี ตั้งอยู่ริมทะเล เป็นเอกลักษณ์ให้เราได้จดจำความงดงามของเมืองนี้ได้ชัดเจนขึ้น

ไอซ์แลนด์ดินแดนแห่งความเยือกเย็น ภูมิประเทศสงบสวยงาม แวดล้อมกายด้วยธรรมชาติที่แสนพิสุทธิ์ เป็นความแตกต่างราวกับเป็นอีกโลกหนึ่ง สร้างความประทับใจให้ได้จดจำตราบนานเท่านาน
Where to eat:
ร้านอาหาร Tryggvaskali และRestaurant Varma ที่เมือง Selfoss
Getting there:
สายการบินจากไทยมุ่งสู่ยุโรป
Aeroflot, Emirates, Finnair, Norwegian Air, SAS และ Thai Air
จากยุโรปเข้าสู่ไอซ์แลนด์ Iceland Air บิน 27 เมืองในยุโรป Norwegian Air และ SAS
More Info:
เมื่อวางแผนเที่ยวเองต้องเช่ารถมาขับ เมื่อหาที่พักให้เลือกมีที่จอดรถฟรี
การเดินเท้าเข้าไปยังชายหาดที่มีก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมามาเกยฝั่ง ต้องระวังลื่น เตรียมซื้อ Spikes แผ่นติดรองเท้าได้ที่ซุปเปอร์มาเก็ต
ใช้รองเท้ากันลื่นที่มีเดื่อยเหล็กแหลมสำหรับเดินบนธารน้ำแข็ง
ไฮไลท์อีกแห่งหนึ่ง คือ ที่บูลลากูน หรือบ่อน้ำร้อนสีฟ้าสดใสสวยงาม อุดมด้วยแร่ธาตุนานาชนิดจากใต้ดิน และมีความเชื่อว่า เมื่อได้ลงแช่น้ำที่บ่อน้ำร้อนนี้ จะทำให้ผิวพรรณดี หากโอกาศอำนวยควรแวะไปแช่น้ำ
อาหารการกินหลัก ได้แก่ ปลา เนื้อแกะ และผลิตภัณฑ์นม
สถาปัตยกรรมนั้นเป็นรูปแบบผสมผสานยุโรปและแสกนดิเนเวีย
คนไอซ์แลนด์ชมชอบงานศิลปะต่างๆ ชมละครโอเปล่า และดนตรี ชาวไอซ์แลนด์มีชีวิตวิถีที่เรียบงาย สบายๆ ไม่เร่งรีบ
หากพักอพาร์ทเม้นท์ เกสเฮ้าส์ หรือบ้านแบ่งให้เช่าแบบ Bed&Breakfast โปรดถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน
เตรียมถุงนอนเผื่อไว้ช่วยเสริมให้ร่างกายอบอุ่นในยามนอน เพราะโรงแรมนั้นจะมีเฉพาะเมืองใหญ่เท่านั้น ตามทางจะมีอพาร์ทเม้นท์ เกสเฮ้าส์ หรือบ้านแบ่งให้เช่า