สูงสุดของยุโรปและเทือกเขาแอลป์ นั้นอยู่ที่ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) ประเทศสวิเซอร์แลนด์ ด้วยระดับความสูงถึง 4,158 เมตรจากน้ำทะเล จึงเป็นจุดหมายสำคัญของนักเดินทางท่องเที่ยวที่ดั้นด้นมาชมความงามที่น่าตื่นตาตื่นใจบนยอดเขาสูง ที่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย จากความอุตสาหะของผู้บุกเบิกที่นำคนงานขึ้นมาขุดอุโมงค์ ทำทางรถไฟ และพัฒนาเส้นทางเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1912 นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงจุงเฟรายอร์คโดยรถไฟสายจุงเฟรา ซึ่งเป็นทางรถไฟจากอินเทอร์ลาเคนและไคลเนอไชเดกก์ ซึ่งวิ่งใต้ดิน สถานีรถไฟ Jungfraujoch ที่ระดับความสูง 3,454 เมตร เป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป
Jungfraujoch
ยอดเขาจุงเฟรา หรือ Jungfraujoch ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2007 ด้วยไซต์แห่งนี้มีคุณค่าในระดับสากลที่โดดเด่น ทั้งในด้านความสวยงามและข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการก่อตัวของภูเขาและธารน้ำแข็ง ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งล้ำค่าในแง่ของกระบวนการทางนิเวศวิทยาและชีวภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการสืบทอดการเข้าถึงภูมิประเทศแถบนี้ที่น่าประทับใจ ทั้งมีบทบาทสำคัญต่อศิลปะยุโรป วรรณกรรม การใช้ชีวิตกลางแจ้งด้วยการปีนเขาและการท่องเที่ยวบนภูเขาสูง และต่อมาได้มีการขยายพื้นที่มรดกโลกจาก 53,000 เฮกตาร์ เพิ่มขึ้นเป็น 82,400 เฮกตาร์
Grindelwald Terminal
เมื่อ “กรินเดลวัลด์ เทอร์มินัล” (Grindelwald Terminal) ได้เปิดซึ่งพัฒนาให้มีความสะดวกสบายเต็มรูปแบบแล้ว จึงเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่สำหรับการเดินทางสู่ยอดจุงเฟรา หรือจะกล่าวได้ว่า เป็นประตูสู่ภูมิภาคจุงเฟรา โดยการเดินทางมายังกรินเดลวัลด์เทอร์มินัลสามารถมาได้ทั้งรถไฟ รถบัส และรถยนต์ ภายในเทอร์มินัลให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ สะดวกรวดเร็ว มีที่จอดรถนับพันคัน ภัตตาคาร ร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์ ร้านจำหน่ายและให้เช่าอุปกรณ์กีฬา ห้องล็อกเกอร์ เป็นต้น
Eiger Express tricable
จากกรินเดลวัลด์เทอร์มินัลเดินทางด้วยกอนโดลา Eiger Express tricable การบริการใหม่ล่าสุด นำไปยังสถานี Eigergletscher ในเวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น ระบบกอนโดลาแบบ Eiger Express tricable รวมข้อดีทั้งหมดของกระเช้าลอยฟ้าและกระเช้าไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ด้วยสายเคเบิลแบบ Double Carrier จึงสามารถวิ่งข้ามความยาวได้มากโดยมีเสารองรับน้อยลด ในขณะที่ยังคงมีความเสถียรสูงเมื่อต้องปะทะกับลม สำหรับ Eiger Express มีเสารองรับเพียงเจ็ดเสาตลอดความยาวทั้งหมด 6,483 เมตร ทำให้ผู้โดยสารได้ชมภูมิทัศน์อย่างเต็มตาโดยไม่ต้องลงไปใช้เส้นทางเดินป่า การก่อสร้างนี้จึงเป็นการแทรกแซงทางธรรมชาติให้น้อยที่สุดได้อย่างกลมกลืน
Eigergletscher
สถานี Eigergletscher เป็นสถานีรถไฟในเขตเทศบาล Lauterbrunnen รัฐเบิร์น ให้บริการโดยรถไฟของรถไฟ Jungfrau ซึ่งวิ่งไปยัง Jungfraujoch เป็นสถานีสุดท้ายของจุงเฟราบาห์นในที่โล่ง ก่อนที่สายจะเข้าสู่อุโมงค์สู่ยอดเขา สถานีจุดหมายปลายทางเข้าสู่บริเวณแรกเป็นส่วนของพลาซ่าที่เต็มไปด้วยร้านสินค้าแบรนด์และสินค้าของสวิสดักหน้าเรา มีแผนผังการเดินทางและที่เที่ยวชมใน Jungfraujoch แสดงอยู่
สัมผัสหิมะชมวิวบนลานสูง
ขึ้นลิฟต์ขึ้นไปสู่ลานชมวิวกว้างของหอสังเกตการณ์สฟริงซ์ ดาดฟ้าเปิดโล่งที่ประชาชนเข้าถึงได้อยู่ติดกับหอดูดาว ให้ทัศนียภาพของยอดเขาJungfrau , MönchและEigerทั้งหมดภายในไม่กี่กิโลเมตร นักท่องเที่ยวได้สัมผัสหิมะบนยอดเขาสูงแห่งนี้ พร้อมกับชมวิวรอบ ๆ ไปด้วย จุดที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดก็คือบริเวณจุดชมวิวที่ออกไปสัมผัสกับหิมะสีขาวโพลน พร้อมกับชมทัศนียภาพของธารน้ำแข็ง Aletsch ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่มาก ๆ อีกแห่งหนึ่งในยุโรป
Alpine sensation
กลับลงมาเดินเข้าอุโมงค์ โดยเริ่มบริเวณที่มีการนำเสนอเรื่องราวของการบุกเบิกที่จะเดินทางมาที่ด้วยสื่อผสมผสาน ในทางเดิน สองข้างเดินแสดงภาพกิจกรรมต่าง ๆ โดยเชิญ นักกีฬา นักดนตรี และผู้มีความสามารถและชื่อเสียงมาทำกิจกรรมบนยอดเขาสูงแห่งนี้ ก่อนที่จะทะลุไปยังยัง Alpine sensation เข้าไปในทางเดินยาว 250 เมตรระหว่าง Sphinx Hall และ Ice Palace ด้วยอุณหภูมิที่หนาวจัด เราได้ชมเรื่องราวการเสียสละของคนงานเหมืองในการเปิดจุงเฟรายอร์คสู่ทางรถไฟ การทุ่มเททำงานของเขาเหล่านี้ทำให้จุดเริ่มต้นของจุงเฟราบาห์นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมกับภาพในยุคของผู้มีวิสัยทัศน์ด้านการท่องเที่ยว
Ice Palace
จุดหมายต่อไป คือ อุโมงค์น้ำแข็งที่เย็นยะเยือกที่มีรูปปั้นแกะสลักที่สวยงาม นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ Ice Palace ของไกด์นำทางบนภูเขาที่ต้องสร้างทางเดินและห้องโถงในช่วงทศวรรษที่ 1930 ด้วยพลั่วและเลื่อยที่กลางจุงเฟราเฟิร์น ทุกวันนี้ ศิลปินสร้างน้ำแข็งด้วยไหวพริบอันยอดเยี่ยม เดินชมอุโมงค์น้ำแข็งที่ใสราวกับกระจกผ่านโลกที่เย็นยะเยือก ผู้เข้าชมจะได้ค้นพบผลงานศิลปะของพวกเขาตามซอกหลืบ ซึ่งมีทั้ง นกอินทรี เพนกวิน หรือหมี ราวกับว่าพวกมันเคยมีชีวิตแล้วกลายเป็นน้ำแข็งแล้วดูเป็นธรรมชาติมาก
อาหารกลางวันพร้อมชมวิวสวย
หลังจากได้ชมห้องทำซ็อตโกแลต LINDT และช้อปปิ้งกันพอหอมปากหอมคอ เราก็มารับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารบริการตนเอง เมื่อจับจองที่นั่งที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ภาพพาโนรามา หิมะ เทือกภูเขาแล้ว ก็เดินไปตักอาหาร พร้อมเครื่องดื่มมานั่งอ้อยอิ่งรับประทานกันอย่างมีความสุขก่อนที่จะเดินทางกลับลงมายัง กรินเดลวัลด์เทอร์มินัล
When to visit
เที่ยวได้ทั้งปี ฤดูหนาวเวลาสำหรับนักสกีที่ดีที่สุด มกราคม-มีนาคม ในฤดูร้อนที่จะทำกิจกรรมกลางแจ้ง เดือนมิถุนายนถึงกันยายน เป็นเดือนที่เหมาะแก่การไปเที่ยวทำกจกรรม
Where to stay
1. Romantik Hotel Schweizerhof Grindelwald
What to do
1. เที่ยว 1 วัน ไปยังยอดเขา Jungfrau
2. เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งตลอดการนั่งรถไฟ
3. ประสบการณ์นั่งรถไฟลอดอุโมงค์ Eigerwand และ Eismeer
4. รับมุมมองแบบพาโนรามาจากหอดูดาวสฟิงซ์
5. เดินป่าไปที่ Mönchsjoch Hut
6. ประทับใจกับ ความรู้สึกอัลไพน์
7. เข้าสู่วังน้ำแข็ง.
8. ชิมลินด์ สวิส ช็อกโกแลต เฮเว่น
9. มีโอกาสในการถ่ายภาพที่ไม่มีที่สิ้นสุด
Who to contact with
1. https://www.jungfraujochtickets.com/
2. https://www.jungfrau.ch/en-gb/
Why Jungfrau
จุงเฟรายอคเป็นเส้นทางผ่านน้ำแข็งระหว่างภูเขาจุงเฟราและภูเขาเมินช์ Jungfraujoch ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม “Top of Europe” และมีสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปที่ 3,454 เมตร