เชสกี้ ครุมลอฟ (Český Krumlov) ส่องประกายความงดงามดังเพชรประดับหัวแหวนแห่งโบฮีเมียใต้ งดงามดั่งหมู่บ้านในเทพนิยาย อาคารบ้านเรือนของ เชสกี้ ครุมลอฟ ล้วนสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโบสถ์เซนต์วิตุสสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิกตอนปลายที่สําคัญ ตั่งอยู่บนฝั่งแม่น้ำวัลตาวา ในสาธารณรัฐเซ็ก

สาธารณรัฐเช็ก ( Czech Republic) ตั้งอยู่ในยุโรปกลาง ล้อมรอบด้วยประเทศเพื่อนบ้าน โดยพรมแดนทางตอนเหนือจรดโปแลนด์ ทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือติดกับเยอรมนี และทางใต้เชื่อมกับออสเตรีย ส่วนทางตะวันออกติดกับสโลวาเกีย เช็กประกอบด้วยภูมิภาคเก่าแก่สองส่วน คือ โบฮีเมียและโมราเวีย และยังมีส่วนหนึ่งของภูมิภาคที่สาม เรียกว่า ไซลีเชีย
ภูมิภาคโดดเด่นและมีวัฒนธรรมเข้มแข็งต้องยกให้กับโบฮีเมียตอนใต้ (South Bohemia) เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ตราตรึงด้วยภูมิทัศน์กว้างใหญ่ทั้งเนินเขาและทะเลสาบ มีสมญานามว่าเป็นดินแดน 5,000 ปราสาท เพราะมีปราสาทมากมายที่เหล่าราชวงศ์และขุนนางทั้งหลายได้สร้างไว้อาศัยและพักผ่อน ผู้คนกับธรรมชาติมีชีวิตที่สอดคล้องราวกับอยู่ในท่วงทำนองดนตรีเดียวกัน ใครที่เคยคิดว่าคนเช็กเป็นเสือยิ้มยาก เมือได้มาเยือนแถบนี้เห็นทีจะได้ประจักษ์กับความจริง

กว่า 180 กิโลเมตร จากกรุงปรากเมืองหลวงของเช็กฯ เดินทางสู่ เชสกี้ ครุมลอฟ (Český Krumlov) หมู่บ้านในเทพนิยายที่ถือเป็นไฮไลท์หลักของโบฮีเมียตอนใต้ มีจัตุรัสกลางเมืองที่แสนคึกคัก นำเราไปสู่ถนนทุกสายซึ่งเล็กแคบปูด้วยก้อนหินโบราณ เป็นเมืองเล็กๆ ที่เดินอย่างไรก็ไม่มีวันหลงเพราะสุดท้ายแล้วคุณจะวนมาบรรจบที่จัตุรัสกลางเมือง น้ำพุกลางจัตุรัสชูรูปปั้นของพระแม่มารี (Virgin Marry) สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสเตียน ความสูงของพระแม่มารีบ่งบอกถึงสายพระเนตรกว้างไกลที่จะคอยคุ้มครองชาวเมืองทุกคนให้ปลอดภัย

สดชื่นด้วยแม่น้ำวัลตาวา (Vltava)
แม่น้ำสำคัญที่ล้อมเชสกี้ ครุมลอฟ เอาไว้ วัลตาวาเปรียบดั่งสายเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชาวโบฮีเมียตอนใต้และกลาง รวมถึงไหลผ่านสะพานชาร์ลส (Charles Bridge) ในกรุงปราก มีความยาวทั้งสิ้น 430 กิโลเมตร ไหลจากป่าโบฮีเมียไปถึงเมืองเชสกี้ ครุมลอฟ ผ่านกรุงปราก แล้วไปบรรจบกับแม่น้ำเอล-เบะ (Elbe) ทางตอนเหนือของประเทศที่เมืองเมียลนยีก (Mělník) ความผูกพันของสายน้ำวัลตาวากับชาวเช็ก กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ Vltava ผลงานเพลงคลาสสิกระดับโลก จากนักประพันธ์นามก้องโลกเบดชรีก สมิทานา (Bedřich Smetana)

องค์การยูเนสโกยกให้ เชสกี้ ครุมลอฟ เป็นเมืองมรดกโลกใน ค.ศ.1992 บ้านเมืองรุ่งเรืองในช่วงกลางศตวรรษที่ 12 จนถึงศตวรรษที่ 16 โดยปราสาทครุมลอฟ หรือ คฤหาสน์ของตระกูลโรเซนเบิร์ก (Rosenberg) ผู้มั่งคั่งและทรงอิทธิพลในยุคนั้น ปราสาทครุมลอฟใหญ่โตเป็นอันดับสองของประเทศรองจากปราสาทปราก มีหอคอยทรงกลมสูงสง่าเสียดฟ้า (Round Tower) ตกแต่งงามงดดั่งมงกุฎแห่งเจ้าหญิง ระบายสีพาสเทลหวานแหววตัดกับฟ้ากว้างใหญ่เรียกจุดสนใจจากนักท่องเที่ยวได้ทุกมุมมอง

อาคารโดยรอบเคยเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าขุนนาง วางตัวขนานไปกับความคดเคี้ยวของแม่น้ำวัลตาวา ตึกเก่าตรงลานจัตุรัสกลางเมืองสร้างก่อนศตวรรษที่16 ยุคเรอเนสซองซ์ (ราวคริสต์ศตวรรษที่ 14 ถึง 17) เป็นช่วงฟื้นฟูศิลปวิทยา หรือ Rebirth-การเกิดใหม่ ที่นำองค์ความรู้ในยุคกรีกโรมันกลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากที่ยุโรปตกอยู่ในความมืดบอดช่วงยุคกลางมาเนิ่นนาน ตามผนังมีรอยกราฟฟิตีผลงานของศิลปินอิตาเลียนและดัชต์ ที่ตระกูลโรเซนเบิร์กได้อุปถัมภ์อุ้มชู ณ เวลานั้น ลวดลายกราฟฟิตีบนผนังเกิดจากหินสีแตกต่างกันไป อาทิ สีเทา สีเหลือง สีน้ำตาลแดงและสีดำ นำมาวาดลวดลายบนปูนปลาสเตอร์เปียก (ภาพเฟรสโก Fresco) ทนแดดฝนสืบทอดความงามมาจนถึงปัจจุบัน
สองเท้าเก้าขึ้นเนินไปตามถนนฮอร์นี่ (Horni Street) นำทางสู่โบสถ์ยุคกลางเซนต์วิตุส (St. Vitus สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 14) ด้วยความสูง 20 เมตร เป็นอาคารคู่เคียงกับหอคอยของปราสาท ภายในโบสถ์ตกแต่งแบบนีโอโกธิค ความสำคัญอยู่ที่ภาพวาดของเซนต์วิตุสและพระแม่มารีที่แท่นบูชาหลัก เราเดินสวนกับบ่าวสาวชาวคริสเตียนที่เพิ่งมาประกอบพิธีศาสนา เสียงระฆังตีดังก้องประกาศแสดงความยินดีกับความรักที่ผลิบานอย่างสมบูรณ์

ถัดไปอีกหน่อย เสียงลือเลื่องถึงความงามของโรงแรมห้าดาวโฮเตล รูเช่ะ (Hotel Růže) นำเราเข้าสู่อาคารยุคเรอเนสซองซ์ จากอดีตวิทยาลัยเยซูอิต (Jesuit College) ของศตวรรษที่ 16 ได้รับการชุบชีวิตให้กลับมาตรึงตาตรึงใจผู้เข้าพักอีกครั้งด้วยบรรยากาศแสนโรแมนติก ห้องดินเนอร์จัดเป็นธีมยุคกลาง มีชุดเจ้าหญิงเจ้าชายให้เราเลือกใส่ การได้เข้าพักก็สามารถเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้ซาบซึ้งกับบรรยากาศริมแม่น้ำวัลตาวาจากระเบียงห้องได้ทุกเมื่อ

ชาวเช็กในชุดสูทผูกไทด์และชุดราตรีเดินนวยนาดเข้าสู่มหกรรมบันเทิงเริงใจในเทศกาล Baroque Opera งานโอเปร่าที่จัดขึ้น ณ โรงละครบาโรกในปราสาทเชสกี้ ครุมลอฟ (The Baroque Theatre of Český Krumlov Castle) ถือเป็นหนึ่งในสองโรงละครบาโรกที่เหลืออยู่ของยุโรป (อีกแห่งอยู่ที่สวีเดน) เปิดแสดงมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2008
ผลงานโอเปร่าโดยอันโตนีโอ วีวัลดี (Antonio Lucio Vivaldi) นักแต่งเพลงและนักเล่นไวโอลินชื่อดังในสมัยบาโรก (ดนตรียุโรปคลาสสิก ราว ค.ศ. 1600-1750) ที่นั่งภายในโรงละครผู้ชมได้จับจองไว้อย่างแน่นขนัด นักดนตรีวงออร์เคสตราสวมวิกแบบโมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) เริ่มโหมโรงก่อนเข้าสู่การแสดง พอม่านเปิดการแสดงจัดวางอย่างอลังการ จำลองท้องพระโรงในปราสาท เหล่านักแสดงต่างเปล่งพลังเสียงร้องในทุกองก์อย่างไร้ที่ติ และจุดไคลแมกซ์มาถึงเมื่อได้ฟังนักแสดงนำปล่อยพลังเสียงโซปราโนดังก้องลั่นโรง เราทุกคนล้วนต้องมนตราของศิลปะการแสดงขั้นสูง จนเวลา 3 ชั่วโมงผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว

พอออกจากโรงละคร ตะวันก็ได้เวลาลับฟ้าจากไปพร้อมกับกองทัพนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ร้านขายของฝากเริ่มทยอยแขวนป้าย Closed จะเหลือก็แต่ร้านอาหารและบาร์บางร้าน เมื่อไร้ฝูงชน เชสกี้ ครุมลอฟ กลับสู่ความสงบสุขและกลายเป็นเมืองในเทพนิยายอย่างที่ฝันถึง
เราค่อยๆ เดินไปตามแสงไฟไปสู่ร้านอาหารท้องถิ่นใกล้จัตุรัสเมืองแค่อึดใจ ชาดลาวา(Šatlava,www.satlava.cz) ตกแต่งภายในเหมือนถ้ำ ตรงกลางร้านเป็นเตาย่างเนื้อขนาดใหญ่ เนื้อสะดุ้งไฟส่งเสียงดังฉู่ฉ่ายั่วน้ำลาย บริกรรูปร่างใหญ่โตในชุดแต่งกายแบบยุคกลางไม่เน้นความหรูหรา เดินเสิร์ฟอาหารจานใหญ่ให้ทุกโต๊ะ โดยเฉพาะเมนูยอดนิยมขาหมูหนังกรอบกับซอสมัสตาร์ด สเต็กชิ้นใหญ่เนื้อนุ่มกรุ่นควันหอม กินพร้อมจิบเบียร์บัดไวเซอร์สีคาราเมล ที่มีรสชาติและกลิ่นหอมของโบฮีเมียนฮอฟกรุ่นเต็มปาก มื้อนี้คนรักเนื้อหน้าตาอิ่มสุขราวกับจะถึงซึ่งนิพพานในบัดดล

บนถนน Siroka เลขที่ 71 อาคารปูนโบราณสีขาวเป็นที่ตั้งของ Egon Schiele Art Centrum จิตรกรและศิลปินกราฟิกชาวออสเตรีย และเป็นลูกศิษย์ของ Gustav Klimt ผู้โด่งดัง ผลงานของเขามีภาพเปลือยที่เร้าใจ ภาพเหมือนของเมือง และภาพเหมือนของตัวเอง เขาเคยอาศัยและทำงานในเชสกี้ ครุมลอฟ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่ของเขา
Art Centrum ก่อตั้งขึ้นบันทึกชีวิตและการทำงานของเขาบนพื้นที่สามพันตารางเมตร ในบริเวณของโรงเบียร์เก่าสมัยศตวรรษที่ 16 สำหรับศิลปิน ผู้สร้างผลงานนู้ดบรรลือโลก พร้อมประโยคฮิต “Erotic works of art are also sacred” งานของเขาเน้นความจัดจ้านในการใช้สีและเส้นแสดงออกทางอารมณ์ชัดเจน (Expressionism) โดดเด่นด้านการเขียนภาพคน (Figurative painter) หลายภาพเป็นภาพเหมือนตนเองและคนรัก มีทั้งภาพต้นฉบับ และภาพพิมพ์
นอกจากผลงานของ Egon Schiele แล้ว ยังมีนิทรรศการศิลปะคลาสสิกและศิลปของศตวรรษที่ 20 และคาเฟ่แบบดั้งเดิมที่ให้บริการอาหารเช็กจานพิเศษอีกด้วย
More info: – จองตั๋วชมโอเปร่าที่เชสกี้ ครุมลอฟ Baroque opera ,The Egon Schiele Museum
Where to eat: – ร้านอาหารในเชสกี้ ครุมลอฟ Šatlava และ Dwau เสิร์ฟอาหารตำรับท้องถิ่น
Where to stay: โรงแรมในเชสกี้ ครุมลอฟ Hotel Ruže
Getting there: สามารถเที่ยวท่องล่องเช็คด้วยรถไฟ ตั้งแต่เมือง ไปจนถึงหมู่บ้านล้วนมีสถานีรถไฟทั้งนั้น จากกรุงปรากไปเมืองเชสกี้ครุมลอฟใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับตั๋วเฟิร์สคลาส 1,955 บาท หากตั้งใจเที่ยวเช็กหลายวัน แนะนำ Czech Rail Pass ตั๋วแบบ 3 วัน มีอายุ 1 เดือน ราคาสำหรับรถไฟชั้น 2 ประมาณ 4,108 บาท และชั้น 1 ราคา 5,095บาท รายละเอียดเพิ่มเติม